หน้าเว็บไซต์หลัก
หัวข้อ   “ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก กับความหวังพัฒนาฟุตบอลไทยไปบอลโลก”
                  องค์ประกอบสำคัญของการพัฒนากีฬาฟุตบอลไทยไปสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกคือฟุตบอลลีกอาชีพ ซึ่งการ
แข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกที่กำลังจะเสร็จสิ้นไปนี้ได้ตั้งเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลของไทย
ให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นเพื่อหวังพัฒนาทีมฟุตบอลไทยไปสู่ฟุตบอลโลก  ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก กับความหวังพัฒนาฟุตบอลไทยไปบอลโลก” ขึ้น
เพื่อสะท้อนความคิดเห็นและความเชื่อมั่นของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่มีต่อวงการฟุตบอลไทย โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่ม
ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่สนใจติดตามข่าวการแข่งขันฟุตบอล จำนวน 426 คน
เมื่อวันที่ 1 - 4 ตุลาคมที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้
 
             1. การติดตามการแข่งขันกีฬาฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก

 
ร้อยละ
ติดตามชม
( ส่วนใหญ่รับชมจากสื่อ โทรทัศน์ รองลงมาคือ หนังสือพิมพ์
   อินเทอร์เน็ต วิทยุ และไปชมที่สนามแข่งขัน ตามลำดับ )
94.4
ไม่ได้ติดตามชม
5.6
 
 
             2. ความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกถ้ามีการถ่ายทอดสด
                 ในฤดูกาลหน้า


 
ร้อยละ
จะติดตามชม
( โดยในจำนวนนี้ตั้งใจว่าจะติดตามชมทุกแมตช์ร้อยละ 25.6
   และจะติดตามชมบางแมตช์ร้อยละ 70.2 )
95.8
จะไม่ติดตามชม
(  เนื่องจาก ไม่สนใจทีมฟุตบอลไทย รองลงมาคือ ไม่มีเวลาเนื่องจาก
   ต้องทำงาน )
4.2
 
 
             3. สโมสรในศึกฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกที่มีผลงานน่าชื่นชมมากที่สุด 3 อันดับแรก
                 (ถามเฉพาะผู้ที่ติดตามชม) คือ


 
ร้อยละ
อันดับ 1 ชลบุรี เอฟซี
30.8
ดูภาพขนาดใหญ่
อันดับ 2 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
28.7
อันดับ 3 บางกอกกล๊าส เอฟซี
13.4
 
 
             4. สิ่งที่ควรแก้ไข / พัฒนามากที่สุดเพื่อยกมาตรฐานฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก (5 อันดับแรก)
                 คือ


 
ร้อยละ
อันดับ 1 มาตรฐานการตัดสินของกรรมการ / ไลน์แมน
22.6
อันดับ 2 ทักษะ และความเป็นมืออาชีพของนักเตะ
16.0
อันดับ 3 มารยาทแฟนบอล กองเชียร์
12.6
อันดับ 4 มาตรฐานของสนามฟุตบอล
12.3
อันดับ 5 การประชาสัมพันธ์ การถ่ายทอดสด
10.0
 
 
             5. ความคิดเห็นเรื่องความเหมาะสมสำหรับการให้มิสเตอร์ไบรอัน ร็อบสันคุมทีมชาติไทย

 
ร้อยละ
เห็นว่าเหมาะสม
56.3
เห็นว่าไม่เหมาะสม
(  โดยกลุ่มที่คิดว่าไม่เหมาะสมเห็นว่าคนที่เหมาะสมที่จะคุมทีมชาติไทย
    น่าจะเป็นคนไทย โดยส่วนใหญ่คิดว่า น่าจะเป็น ชาญวิทย์ ผลชีวิน
    รองลงมาคือ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน )
12.9
ไม่ทราบ
30.8
 
 
             6. ความเชื่อมั่นว่าฟุตบอลทีมชาติไทยจะสามารถพัฒนาไปสู่บอลโลกได้

 
ร้อยละ
เชื่อว่าได้
(  โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เชื่อว่าจะได้ไปภายในเวลา 12 ปี
   ซึ่งตรงกับฟุตบอลโลกปี 2022 )
66.2
ไม่เชื่อว่าจะได้
33.8
 
 
             7. ความคิดเห็นต่อเรื่องการเปิดโต๊ะให้เล่นพนันฟุตบอลแบบถูกกฎหมาย

 
ร้อยละ
เห็นด้วย
(  โดยในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรนำเงินกำไรที่ได้
    ไปใช้พัฒนาวงการฟุตบอลไทยร้อยละ 24.2 รองลงมาคือ
    ใช้พัฒนาวงการกีฬาร้อยละ 15.9 และใช้พัฒนาประเทศ
    ร้อยละ 14.4 )
54.5
ไม่เห็นด้วย
34.5
ไม่แน่ใจ
11.0
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
ระเบียบวิธีการสำรวจ:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากกลุ่มประชาชนที่สนใจในกีฬาฟุตบอล อายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพฯ
และปริมณฑล จากสนามกีฬาและลานกีฬาต่างๆ ทั้งสิ้น 15 แห่ง ได้แก่ สนามกีฬาการท่าเรือ สนามกีฬาเฉลิม พระเกียรติ
บางมด สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติคลองหก สนามกีฬาสมุทรปราการ สนามศุภชลาศัย สนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี
สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาเขตรังสิต) สนามกีฬาคลองจั่น สนามกีฬาแห่ง
ประเทศไทย (กกท.) สนามฟุตซอลวิทยาลัยดุสิตธานี ลานกีฬาใต้สะพานพระราม 8 ลานกีฬาตะวันนาพลาซ่า สวนสมเด็จ
สราญราษฎร์มณีรมย์ และสนามฟุตซอลเขตบึงกุ่ม ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 426 คน
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน
ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะ
นักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 1 – 4 ตุลาคม 2552
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 7 ตุลาคม 2552
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:    
             ชาย
396
93.0
             หญิง
30
7.0
รวม
426
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 25 ปี
204
47.9
             26 – 35 ปี
142
33.3
             36 – 45 ปี
58
13.6
             46 ปีขึ้นไป
22
5.2
รวม
426
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
244
57.3
             ปริญญาตรี
162
38.0
             สูงกว่าปริญญาตรี
20
4.7
รวม
426
100.0
อาชีพ:
 
 
             ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ
36
8.5
             พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน
154
36.1
             ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว
60
14.1
             รับจ้างทั่วไป
31
7.3
             พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ
4
0.9
             อื่นๆ อาทิ นักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น
141
33.1
รวม
426
100.0
 
Vote:  ดีมาก(5) ดี (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) แย่ (1)  
 ผลคะแนนVote              
 
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776